คุณยังจำชีวิตในสมัยเรียนมหาวิทยาลัยกันได้ไหม ? ตอนเราเด็กๆที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตในรั้วมหาลัย เราต่างวาดฝันกันไว้ว่ามันคงเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขที่สุด แม้จากจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะไม่ง่าย แต่เราก็ต้องใช้ความพยายามทั้งทุ่มเทแรงกายแรงใจในการอ่านหนังสือกันมาไม่น้อย จนหลายๆคนก็อาจจะคิดว่ามันเป็นสถานที่แห่งการขวนขวายความสุข แต่ใครเลยจะรู้ว่ามันจะวุ่นวายและซับซ้อนขนาดไหน

เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศ ได้มีหญิงสาวรายหนึ่งได้ทำการแบ่งปันเรื่องราวของตนเองลงบนโลกออนไลน์ โดยเขียนถึงแฟนหนุ่มที่คบกันมา 6 ปี ก่อนที่เธอจะถูกหักหลังจนได้รับความเจ็บปวดมากที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว จนไม่อาจจะรักใครอีกแล้ว จนได้มาเจอกับแฟนคนปัจจุบันซึ่งเปลี่ยนโลกของเธอให้กลับมาสดใสขึ้นใหม่อีกครั้ง

แฟนหนุ่มของเธอสูง 198 ซม.เป็นนักบาสเกตบอลมืออาชีพ ใบหน้าของเขามองดูแล้วก็เห็นได้ชัดว่าลูกครึ่งแน่นอน ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าสาวๆหลงไหลเขากันเป็นแถวเลยทีเดียว แน่นอนว่าเขามีแฟนคลับคอยเป็นกองเชียร์อยู่ข้างสนามเป็นโขยงเลยล่ะ

แฟนหนุ่มของเธอรักเธอสุดๆ เพื่อความสบายใจเขายอมให้แฟนเช็คข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างทั้งเซกบุ๊ก ไลน์ แถมเขายังไม่คุยกับผู้หญิงคนไหนสุ่มสี่สุ่มห้าอีกต่างหาก

แต่แล้ววันหนึ่งรอบชิงชนะเลิศ แฟนหนุ่มของเขาก็ได้ไปแข่งที่จังหวัดหนึ่งในภาคใต้ คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้เขาจะได้เป็นแชมป์จากการแข่งขัน แล้วคืนนั้นแฟนหนุ่มของเธอก็ได้ไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนร่วมทีม
แต่เธอเนื่องจากไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนร่วมทีมของเขาเท่าไรนักเธอจึงเลือกที่จะไม่ไปด้วย และนั่งดื่มกาแฟเพื่อรอแฟนแถวๆร้านในระแวกนั้น

แต่แล้ววันหนึ่งรอบชิงชนะเลิศ แฟนหนุ่มของเขาก็ได้ไปแข่งที่จังหวัดหนึ่งในภาคใต้ คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้เขาจะได้เป็นแชมป์จากการแข่งขัน แล้วคืนนั้นแฟนหนุ่มของเธอก็ได้ไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนร่วมทีม แต่เธอเนื่องจากไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนร่วมทีมของเขาเท่าไรนักเธอจึงเลือกที่จะไม่ไปด้วย และนั่งดื่มกาแฟเพื่อรอแฟนแถวๆร้านในระแวกนั้น

สุดท้ายเจ้าของกระทู้ก็ไม่เลิกกับแฟนแต่อย่างใด แถมเธอยังโกรธสุดๆ พร้อมกับโพสต์ข้อความทิ้งท้ายว่า “แอบลักกินขโมยกินของคนอื่นเป็นไง อร่อยมั้ยล่ะ”

เจอแบบนี้ก็ไม่ไหวจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าโลกเราจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ มีผู้หญิงมากมายที่ไม่ค่อยรักนวลสงวนตัว แถมยังใช้ร่างกายเปลืองกับผู้ชายที่ไม่ใช่คนของตนเองอีกต่างหาก

ขอบคุณข้อมูล : Liekr
ทีมา ;http://khaosudee.blogspot.com/2017/05/6_17.html?m=1