ข่าวไทย
วิธีปลูกแตงโมหลังเสร็จสิ้นนาข้าวสร้างรายได้อย่างงามให้แก่ชาวนา
พฤษภาคม 11, 2560ชาวนา ต.หนองพลับ ปลูกแตงโมหลังเสร็จสิ้นนาข้าวคนแห่ซื้อแตงโมถึงไร่-การันตีด้วยรสชาติ เนื้อแน่น หวาน กรอบ
หากใครที่เคยรับประทานแตงโมหนองพลับ ในพื้นที่ ต.หนองพลับ อ.เมือง จ.เพชรบุรี จะทราบกันดีว่า มีรสชาติหวาน กรอบ เนื้อแน่น ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวทำให้ชื่อเสียงแตงโมหนองพลับในพื้นที่แห่งนี้ติดตลาดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเกษตรกรที่ปลูกแตงโมก็คือชาวนา พื้นที่ปลูกก็เป็นพื้นที่นาข้าว เกษตรกรจะปลูกแตงโมในช่วงหน้าแล้งหลังเสร็จสิ้นฤดูทำนา ยิ่งปัจจุบันหลังชื่อเสียงของแตงโมหนองพลับแห่งนี้ติดตลาด เวลาไร่แตงโมของเกษตรกรท่านใดกำลังตัดขาย จะมีผู้บริโภคทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ เดินทางกันมาซื้อแตงโมสดๆ กันถึงที่ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านไปผ่านมา ทำให้บรรยากาศคึกคัก มีการจับจองแย่งซื้อแตงโมกันอย่างจ้าละหวั่น และไม่ใช่จะมีแต่ผู้บริโภคอย่างเดียว ยังมีพ่อค้าแม่ค้าที่เดินทางมาซื้อไปขายอีกจำนวนมาก ส่งผลให้ชาวนาที่ปลูกแตงโมในพื้นที่แห่งนี้ไม่ต้องดิ้นรนนำแตงโมไปขายเอง จะขายหมดตั้งแต่อยู่ในไร่ มีกำไรจากการปลูกแตงโมมากกว่าการทำนาข้าวเป็นเท่าตัว และถ้ารวมทั้งการทำนาข้าวสลับกับปลูกแตงโมในหน้าแล้ง เกษตรกรจะมีรายได้อย่างงดงาม ถือเป็นความโชคดีของชาวนาที่นี่ ที่พื้นที่ทำนาข้าวสามารถปลูกแตงโมได้รสชาติอร่อย และสิ่งหนึ่งที่ชาวนาที่นี่ยังคงรักษาไว้ได้ตลอดคือไม่ขายแตงโมยกไร่ แต่จะตัดแตงโมผลที่แก่ขายเท่านั้น
นายฉัตรชัย สายเสียงสด ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.หนองพลับ อ.เมือง จ.เพชรบุรี กล่าวว่า แตงโมหนองพลับ อ.เมืองเพชรบุรี เริ่มทดลองปลูกในปี 2518 ปลูกในพื้นที่นาข้าวที่เสร็จสิ้นจากการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี พันธุ์ที่ปลูกก็จะมีทั้งกินรี ทานโต พันธุ์ 188 และอีกหลายพันธุ์ อาทิ แตงเหลืองสายพันธุ์น้ำผึ้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกษตรกรจะนำมาปลูก ผลผลิตที่ได้ปรากฏว่าแตงโมมีรสหวาน กรอบ เนื้อแน่น เปลือกบาง เกษตรกรที่เดิมจะทำนาข้าวได้หันมาปลูกแตงโมในช่วงหน้าแล้งกัน ทยอยปลูกเพิ่มขึ้นทุกปี ทดลองผิดบ้างถูกบ้าง จนได้แตงโมที่มีรสชาติเป็นที่ต้องการของตลาด คาดว่ามาจากพื้นที่ดินที่ปลูก เพราะเคยมีการนำไปปลูกในพื้นที่ใกล้เคียง แต่รสชาติไม่เหมือนที่ปลูกในพื้นที่ ต.หนองพลับ และสิ่งที่การันตีคุณภาพของแตงโมที่นี่คือเกษตรกรจะตัดแตงโมที่แก่จากต้นจริงๆ ไม่ตัดหรือขายเหมาทั้งแปลง จะทยอยตัดหลายครั้ง ที่เกษตรกรจะเรียกว่า มีดแรก มีดสอง มีดสาม คือตัดครั้งที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 เป็นต้น จึงทำให้ได้แตงโมที่แก่เต็มที่ เนื้อแดง กรอบ หวาน จนมีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบัน ปัญหาที่เกิดขึ้นคือไม่สามารถปลูกซ้ำที่เกิน 2 ครั้ง หากปลูกครั้งที่ 3 จะประสบปัญหาต้นตาย คุณภาพไม่ดี การดูแลยากขึ้นเนื่องจากทั้งโรคและแมลงรบกวน จึงต้องย้ายพื้นที่ไปปลูกแปลงอื่นในพื้นที่ใกล้กัน ดังนั้นหากเกษตรกรมีพื้นที่ทำนาเพียงแปลงเดียว ก็จะต้องปลูกแตงโมแบบปีเว้นปี ส่วนเกษตรกรที่มีพื้นที่ทำนามากกว่า 1 แปลง ก็จะสลับกันปลูกแตงโม ก็จะสามารถปลูกได้ทุกปี ปีนี้ปลูกกันแทบทั้งตำบล เนื่องจากมีการให้หยุดทำนาปรัง
ในแต่ละปีที่ผ่านมา จะมีพื้นที่การปลูกไม่มากนัก เนื่องจากแตงโมไม่สามารถปลูกซ้ำพื้นที่เดิมเกิน 2 ครั้ง เกษตรกรจะหมุนเวียนปลูกสลับกันไปมา และมีหลายพื้นที่ยังคงทำนาปรังกันปกติ แต่มาปีนี้หลังทางภาครัฐให้งดทำนาปรัง ทำให้เกษตรกรหันมาปลูกแตงโมกับมากเป็นพิเศษ กล่าวได้ว่ามากที่สุดตั้งแต่เริ่มปลูกแตงโมในพื้นที่ ต.หนองพลับ มีพื้นที่ปลูกไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ คลอบคลุมทั้งตำบล จะมีเพียงบางหมู่บ้านที่น้ำไปไม่ถึงก็จะไม่ได้ปลูก แต่ราคาขายยังคงที่ คาดว่าราคาคงไม่ลดต่ำลงเนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด แม้ว่าจะมีการขยายพื้นที่ปลูกมากกว่าทุกปี เพราะผลผลิตไม่ได้มีตลอดปี อย่างไรก็ตามก็ต้องรอดูอีกสักระยะเนื่องจากปีนี้มีพื้นที่ปลูกเพิ่มมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ถ้าเปรียบเทียบระหว่างการทำนาข้าว การทำไร่แตงโมได้กำไรมากกว่า ยิ่งถ้าแตงโมไม่ประสบปัญหาเรื่องโรคหรือตาย ยิ่งได้กำไรมากกว่า 2-3 เท่าตัว เนื่องจากลงทุนน้อยกว่าแต่ขายได้ราคาขายดี ใน 1 ไร่ สามารถปลูกแตงโมได้ประมาณ 300 หลุม ใช้ระยะเวลา 2 เดือนก็เก็บผลผลิตขาย ส่วนข้าวอย่างต่ำต้องใช้ระยะเวลา3 เดือน ปีนี้ประสบปัญหาเหมือนกันทั้งขาดแคลนน้ำและเจริญเติบโตไม่ดีเนื่องจากสภาพอากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว และอยากจะฝากไปยังผู้บริโภคว่า แตงโมที่ ต.หนองพลับ อ.เมืองเพชรบุรี แห่งนี้ ปลอดสารพิษแน่นอน เกษตรกรใช้สารชีวภาพกันทั้งหมด ที่สำคัญเกษตรกรปลูกเองกินเองด้วย ไม่ใช่จะปลูกขายอย่างเดียว ดังนั้นกับความคิดที่ว่าการปลูกแตงโมใช้สารเคมีมากนั้น ในพื้นที่อื่นไม่รู้ แต่ถ้าใน ต.หนองพลับ จังหวัดเพชรบุรีแห่งนี้ การันตีได้ว่าปลอดสารพิษแน่นอน และถ้าผู้บริโภคท่านใด ผ่านมาช่วงที่มีการตัดแตงโมจากไร่ ก็สามารถแวะลงไปซื้อสดๆ ในไร่ได้ทันที แถมได้ราคาถูกกว่าท้องตลาดอีกด้วย
ภัทรพงษ์ ปานปิ่นทอง/เพชรบุรี
ทีมา ;http://www.senesouk.com/2017/05/blog-post_46.html
0 ความคิดเห็น